วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Learning Log 5

หลักการแปลวรรณกรรม

การแปลวรรณกรรมช่วยให้คนที่อยู่ในแต่ละส่วนของโลกได้รับรู้เรื่องราว สภาพแวดล้อม ความคิด ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของถิ่นอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆซึมซับจนเกิดเป็นความเข้าใจคนเชื้อชาตินั้นๆได้ อย่างไรก็ตาม วรรณกรรมชิ้นเอกของโลกจำนวนไม่น้อยเขียนด้วยภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษอันถือเป็นภาษาสากลของโลก ดังนั้น การเลือกวรรณกรรมเพื่อแปลเป็นภาษาไทยยังต้องสรรหาบุคคลที่รู้ภาษาต่างประเทศนั้นๆดีพอที่จะแปลหนังสืออันทรง คุณค่าทางวรรณกรรมได้ด้วย บางครั้งการหาผู้แปลจากภาษาที่หนึ่งเป็นเรื่องยากลำบาก จึงมักแก้ปัญหาโดยหาผู้แปลจากภาษาที่สองแทนซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ การตัดสินใจดังกล่าวแม้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้แปลได้ แต่อาจนำมาซึ่งปัญหาต่างๆตามมามากมาย เนื่องจากผู้แปลไม่อาจรู้ได้ว่าฉบับแปลภาษาอังกฤษนั้นเก็บใจความทุกอย่างและความรู้สึกทุกประการของตัวละครไว้ได้หรือไม่ อีกทั้งยังคงบริบททางวัฒนธรรมไว้ได้ครบถ้วนเพียงใด
                 วรรณกรรม (Literature) หมายถึง หนังสือที่แต่งขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าจะใช้ร้อยแก้วหรือร้อยกรอง ตามปกติวรรณกรรมถูกจัดไว้ในงานประเภท บันเทิงคดี  ซึ่งงานบันเทิงคดีที่จะนำมากล่าวถึงนี้คือ งานแปล นวนิยาย เรื่องสั้น นิทาน นิยาย บทละคร การ์ตูน บทภาพยนตร์ บทเพลง เป็นวรรณกรรมที่ผู้อ่านมุ่งหวังที่จะได้รับความบันเทิงเพลิดเพลินเป็นส่วนใหญ่   การแปลวรรณกรรมนอกเหนือจากการแปลด้วยทฤษฎีการแปลแล้ว ยังประกอบด้วยเรื่องของภาษาวรรณคดี โลกทัศน์ของผู้แต่ง ความเป็นสากลข้ามมิติเวลา มิติถานที่และวัฒนธรรม ตลอดจนการสื่อสารระหว่างตัวบทวรรณกรรมกับผู้อ่าน ในการแปลวรรณกรรมนั้นผู้แปลจะต้องมีประสบการณ์ในการแปล มีทั้งตัวอย่างการแปลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตลอดจนตัวอย่างการตรวจแก้งานแปลของผู้เขียนเอง ซึ่งทุกส่วนล้วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแปลวรรณกรรม ดังนั้นผู้แปลต้องศึกษาหลักการแปลวรรณกรรมให้ถ่องแท้เข้าใจชัดเจน จึงสามารถแปลงานอกมาได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด

    หลักการแปลนวนิยาย

                นวนิยายแปลเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกประเทศและทุกกาลสมัย ผู้แปลมีความสำคัญเกือบจะเท่าผู้แต่ง ในบางครั้งมีความสำคัญยิ่งกว่าผู้แต่ง เพราะผู้แปลจะต้องสื่อความหมายของงานแปลต้นฉบับออกมาให้ถูกต้องตามต้นฉบับ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำ สำนวน หรือคำศัพท์เดียวกัน แต่สามารถค้นหาถ้อยคำสำนวนอื่นที่สละสลวยมาใช้ได้ แต่ความหมายและคุณค่าทางวรรณกรรมยังคงอยู่และสอดคล้องกับต้นฉบับได้เป็นอย่างดี
1.  การแปลชื่อเรื่องวรรณกรรม ชื่อของหนังสือหรือภาพยนตร์มีความสำคัญเป็นอันดับแรกซึ่งการแปลชื่อเรื่องมีความสำคัญเทียบเท่าใบหน้าของคนเราซึ่งจะต้องความพิถีพิถันในการแปล โดยทั่วไปมีหลักการอยู่ 4 แบบดังนี้
     1.1 ไม่แปล ใช้วิธีการถอดเสียงหรือถ่ายทอดตามตัวอักษร
     1.2 แปลตามตัว ถ้าชื่อมีความสมบูรณ์ครบถ้วนก็จะใช้วิธีการแปลตรงตัวโดนรักษาคำและความหมาย ไว้ด้วยภาษาที่ดีและกะทัดรัด
     1.3 แปลบางส่วนแปลงบางส่วน ใช้เมื่อชื่อในต้นฉบับห้วนเกินไปไม่ดึงดูดและสื่อความหมายไม่เพียงพอ
     1.4 ตั้งชื่อใหม่โดยการตีความชื่อเรื่องและเนื้อเรื่อง จะต้องวิเคราะห์เนื้อหาและเนื้อเรื่องจนจับประเด็นสำคัญและลักษณะเด่นของเรื่อง
                2.การแปลบทสนทนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากในการแปลวรรณกรรมเพราะมีภาษาหลายระดับที่เต็มไปด้วยคำสแลง คำสบถ คำย่อ คำตัด หากผู้แปลไม่คุ้นก็จะทำให้แปลได้ผิดพลาด
                3.การแปลบทบรรยาย เป็นข้อความที่เขียนเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ซึ่งมักจะใช้ภาษาเขียนที่ขัดเกลาและแตกต่างกันหลายระดับก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นอีกระดับ
                       ก. ภาษาในสังคม ภาษาในสังคมมีหลายระดับชั้น และการใช้ภาษามีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะภาษาถิ่นที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการแปลทั้งเรื่องเสียง การใช้คำ ความหมายของคำ การเรียงคำ
                       ข. ภาษาวรรณคดี ภาษาระดับนี้ต้องคำนึงถึง ลีลาของการเขียน ที่เป็นลักษณะเฉพาะของผู้เขียน

ขั้นตอนในการแปลวรรณกรรม

                1.อ่านเรื่องราวให้เข้าใจโดยตลอด สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องที่จะแปลได้ ย่อความเนื้อเรื่องได้ จับประเด็นของเรื่อง ทำแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครสำคัญในเรื่อง
                2.วิเคราะห์ถ้อยคำสำนวน ค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก ค้นหาความกระจ่างของข้อความที่ไม่เข้าใจ ค้นหาความกระจ่างทางวัฒนธรรม
                3.ลงมือแปลเป็นภาษาไทยด้วยถ้อยคำสำนวนที่เรียบง่าย อ่านเข้าใจง่ายและชัดเจน


หลักการแปลบทละคร

                บทละครคือวรรณกรรมการแสดง ในที่นี้จะเป็นการแปลละครโศก ละครชวนขัน ละครโอเปร่าหรืออุปรากรและบทละครสำหรับละครเวทีซึ่งมีวิธีการแปลคล้ายกับการแปลเรื่องสั้น นวนิยายคือเริ่มด้วยการอ่านต้นฉบับเพื่อทำความเข้าใจให้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบก่อน หาความหมายและคำแปลแล้วจึงเขียนบทแปลด้วยภาษาที่เหมาะสม


หลักการแปลภาพยนตร์

                บทภาพยนตร์มีลักษณะเหมือนบทละคร คือประกอบด้วยคำสนทนาเป็นส่วนใหญ่แต่ผู้แสดงภาพยนตร์มีคนแสดงมากกว่าแต่ละคนจะใช้คำพูดต่างกันตามอุปนิสัย ใจคอและพูดจารวดเร็วต่างจากผู้แสดงละครซึ่งจะพูดช้าและเน้นย้ำให้ชัดเจน
                วิธีแปลบทภาพยนตร์ มีขั้นตอนดำเนินการเช่นเดียวกับการแปลบทละคร การ์ตูนซึ่งต้องอ่านทั้งข้อความ ภาพและฉากพร้อมๆกันโดยสัมพันธภาพต่อกัน ซึ่งจุดประสงค์หลักของบทละครภาพยนตร์แปลมี 2 ประการ คือ
      1.นำบทแปลไปพากย์หรืออัดเสียงในฟิล์ม ผู้ฟังจะได้ยินนักแสดงพูดภาษาไทย
       2.นำบทแปลไปเขียนคำบรรยายในฟิล์มดั้งเดิม ผู้ฟังจะได้ยินเสียงเดิมของนักแสดงและได้เห็นคำแปลพร้อมกัน


หลักการแปลนิทาน นิยาย

                บันเทิงคดีประเภทนิทาน นิยาย เรื่องเล่าเป็นสิ่งที่มีมาแต่โบราณสมัยที่ยังไม่ใช้ตัวอักษรในการสื่อสารกัน เป็นการเล่าแบบปากต่อปากหรือที่เรียกว่า มุขปาฐะ โดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ศาสนา เพื่อความสนุกสนาม เพลิดเพลิน ตามหลักวรรณคดีสากล มีชื่อต่างๆเรียกวรรณกรรมประเภทนิทาน นิยาย เรื่องเล่า ดังนี้
             -   Tale หมายถึงเรื่องเล่าที่ประดิษฐ์คิดแต่งขึ้น ซึ่งจะเล่าในรูปแบบร้อยแก้วหรือร้อยกรอง มีเนื้อเรื่องธรรมดาแต่มีวิธีการเล่าที่แปลก
             -   Myth หมายถึงเรื่องเล่าที่รู้จักกันมาแต่โบราณ เนื้อเรื่องมักจะกล่าวถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา อิทธิปาฏิหาริย์ของพระเจ้า เทพเจ้า วีรบุรุษ
             -  Fable หมายถึงเรื่องสั้นๆที่มุ่งแสดงให้เห็นสัจธรรม เรื่องเรื่องจริงบางอย่าง ตัวละครมักจะเป็นสัตว์หรือคนโดยส่วนใหญ่เป็นการวิจารณ์มนุษย์
             -  Fabliau หมายถึง เรื่องเล่าสั้นๆที่แต่งเป็นร้อยกรอง สามารถนำเพลงมาร้องได้ จะสอดแทรกอารมณ์ขันและยั่วล้อ
             -   Fairy Tales หมายถึง นิทานประเภทหนึ่งของ myth ซึ่งเน้นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้า เทพยา ภูตผีปีศาจ วิญญาณ
             -   Legend หมายถึง เรื่องราวชีวิตของนักบุญหรือบุคคลธรรมดาที่บำเพ็ญความดี มีคุณธรรมน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
                ในการแปลนิทาน นิยายนี้ จะต้องมีการอ่านต้นฉบับเพื่อทำความเข้าใจก่อนล่วงหน้า แล้วใช้จึงดำเนินการเขียนบทแปล โดยจะใช้รูปแบบภาษาระดับกลาง ใช้วิธีเขียนแบบเก่า โบราณ ไม่เหมือนปัจจุบัน ตอนจบเป็นคำสอนการแปลชื่อของเรื่องนี้ สามารถใช้วิธีการแปลแบบตรงตัวได้ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถคาดเดาถึงคำสอนได้ตั้งแต่ชื่อเรื่อง และทำให้เนื้อเรื่องเกิดความน่าสนใจและอยากอ่านต่อจนจบเรื่อง


หลักการแปลเรื่องเล่า

                เรื่องเล่าสั้นๆ แฝงอารมณ์ขันมักจะปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ผู้อ่านจะต้องเข้าใจปมของอารมณ์ขันและหยิบยกขึ้นมาแปลถ่ายทอดให้ตรงตามต้นฉบับ เรื่องเล่าจะประกอบด้วยตัวละคร 1-2 ตัว ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน ตอนจบมักจะเป็นปมอารมณ์ขันที่เป็นจุดเด่นของเรื่อง ในการแปลเรื่องเล่า จะมีวิธีการแปลตามขั้นตอน คือเริ่มด้วยการอ่านให้เข้าใจแล้วเขียนบทแปล โดยการใช้ภาษาระดับกลาง เป็นถ้อยคำสั้น ๆ กะทัดรัด หรืออาจจะมีความกำกวมเพื่อให้เกิดอารมณ์ขัน
              
หลักการแปลการ์ตูน

                การ์ตูนไม่ใช่เรื่องสั้นสำหรับเด็กๆแต่เป็นวรรณกรรมทั้งชายหญิงที่จะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน ผ่อนคลายเครียดจากการอ่านการ์ตูน นอกจากนี้การ์ตูนยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ความสามารถเชิงสังเกต วิเคราะห์และเชาว์ไวไหวพริบแก่ผู้อ่าน สามารถเชื่อมโยงการสื่อความหมายด้วยภาพกับภาษาเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้นแลละเกิดการจินตนาการภาพไปพร้อมๆกัน ซึ่งหลักการสำคัญในการแปลการ์ตูน ก็คือการใช้การใช้คำแปลที่สั้น ชัดเจน เข้าใจได้หรือสื่อสารได้ สามารถกำจัดคำภายในกรอบคำพูดได้ ภาษาในการสนทนามีหลายระดับขึ้นอยู่กับตัวละครที่สร้างขึ้น ผู้แปลต้องระมัดระวังในการใช้ภาษาในการแปลเพื่อให้สอดคล้องกับต้นฉบับและเนื้อหาที่น่าสนใจ


หลักการแปลกวีนิพนธ์

                กวีนิพนธ์เป็นวรรณกรรมที่แต่งเป็นร้อยกรอง มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัวด้วยการจำกัดจำนวนคำ จำนวนพยางค์และจำนวนบรรทัด ทั้งเสียงหนัก เบา การสัมผัสและจังหวะ จัดทำขึ้นเพื่อเล่าเรื่อง ให้ความรู้ สอนศีลธรรม และเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน โดยการแปลจะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และเป็นไปตามลักษณะของการแปลกวีนิพนธ์ ซึ่งได้แก่
              1.  การแปลเป็นร้อยกรอง   วิธีนี้นิยมใช้กับวรรณคดีโบราณที่มุ่งเน้นทั้งเนื้อหาสาระและความไพเราะของภาษา ซึ่งจะต้องนำเสนอเนื้อหาที่ใกล้เคียงเนื้อหาเดิมให้มากที่สุดโดนยึดฉันทลักษณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น พยายามเล่นคำ เล่นความหมายตามต้นฉบับทุกจังหวะ ทุกบททุกตอน
             2.  การแปลเป็นร้อยแก้ว   ผู้แปลจะใช้การแปลกวีนิพนธ์เป็นร้อยแก้วต่อเมื่อมีจุดประสงค์เพียงการสื่อสารความคิดและวัฒนธรรมอื่นๆในกวี


ปัญหาการแปลกวีนิพนธ์

                ปัญหาหลักที่พบในการแปลกวีนิพนธ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ซึ่ง 2 ปัญหานี้สามารถพบได้กับงานแปลทุกประเภทอยู่แล้ว แต่จะพบมากในงานด้านกวีนิพนธ์ เนื่องจาก ความซับซ้อนของภาษาที่เป็นปัจจัยหลักในการแปล  ปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ในการแปลนี้ก็คือ ความเข้าใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำเนินการแปลทุกประเภท ผู้แปลต้องเข้าใจภูมิหลังของกวีมากพอสมควร จึงจะเกิดความเข้าใจที่ถ่องแท้ได้ และอีกปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การเลือกใช้ถ้อยคำสำนวน ผู้แปลต้องหาคำแปลที่สั้น กะทัดรัดในจำนวนที่จำกัดตามฉันทลักษณ์ และต้องมีเสียงหนักเบา เหมาะกับจังหวะ และสัมผัสลื่นไหล ซึ่งถือว่ายากมากสำหรับการเลือกใช้ถ้อยคำสำนวนให้เหมาะสม


                การแปลวรรณกรรมช่วยให้คนที่อยู่ในแต่ละส่วนของโลกได้รับรู้เรื่องราว สภาพแวดล้อม ความคิด ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของถิ่นอื่นๆ ซึ่งวรรณกรรมถือเป็นงานแปลทางบันเทิงคดี ได้แก่ งานแปลนวนิยาย เรื่องสั้น นิทาน นิยาย บทละคร การ์ตูน บทภาพยนตร์ บทเพลง และกวีนิพนธ์ต่าง ๆ มุ่งหวังให้ผู้อ่านเกิดความเพลิดเพลินและได้รับความรู้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแปลวรรณกรรม ก็คือ การรักษาความหมายเดิมของต้นฉบับไว้ให้ครบถ้วนถูกต้อง ผู้แปลต้องศึกษาหลักการแปลวรรณกรรมให้ถ่องแท้เข้าใจชัดเจน จึงสามารถแปลงานอกมาได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น