หลักการแปลวรรณกรรม
การแปลวรรณกรรมช่วยให้คนที่อยู่ในแต่ละส่วนของโลกได้รับรู้เรื่องราว
สภาพแวดล้อม ความคิด ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของถิ่นอื่นๆ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆซึมซับจนเกิดเป็นความเข้าใจคนเชื้อชาตินั้นๆได้
อย่างไรก็ตาม วรรณกรรมชิ้นเอกของโลกจำนวนไม่น้อยเขียนด้วยภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษอันถือเป็นภาษาสากลของโลก
ดังนั้น
การเลือกวรรณกรรมเพื่อแปลเป็นภาษาไทยยังต้องสรรหาบุคคลที่รู้ภาษาต่างประเทศนั้นๆดีพอที่จะแปลหนังสืออันทรง
คุณค่าทางวรรณกรรมได้ด้วย บางครั้งการหาผู้แปลจากภาษาที่หนึ่งเป็นเรื่องยากลำบาก
จึงมักแก้ปัญหาโดยหาผู้แปลจากภาษาที่สองแทนซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ
การตัดสินใจดังกล่าวแม้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้แปลได้
แต่อาจนำมาซึ่งปัญหาต่างๆตามมามากมาย
เนื่องจากผู้แปลไม่อาจรู้ได้ว่าฉบับแปลภาษาอังกฤษนั้นเก็บใจความทุกอย่างและความรู้สึกทุกประการของตัวละครไว้ได้หรือไม่
อีกทั้งยังคงบริบททางวัฒนธรรมไว้ได้ครบถ้วนเพียงใด
วรรณกรรม (Literature) หมายถึง
หนังสือที่แต่งขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าจะใช้ร้อยแก้วหรือร้อยกรอง
ตามปกติวรรณกรรมถูกจัดไว้ในงานประเภท บันเทิงคดี
ซึ่งงานบันเทิงคดีที่จะนำมากล่าวถึงนี้คือ งานแปล นวนิยาย เรื่องสั้น นิทาน
นิยาย บทละคร การ์ตูน บทภาพยนตร์ บทเพลง
เป็นวรรณกรรมที่ผู้อ่านมุ่งหวังที่จะได้รับความบันเทิงเพลิดเพลินเป็นส่วนใหญ่ การแปลวรรณกรรมนอกเหนือจากการแปลด้วยทฤษฎีการแปลแล้ว
ยังประกอบด้วยเรื่องของภาษาวรรณคดี โลกทัศน์ของผู้แต่ง ความเป็นสากลข้ามมิติเวลา
มิติถานที่และวัฒนธรรม ตลอดจนการสื่อสารระหว่างตัวบทวรรณกรรมกับผู้อ่าน
ในการแปลวรรณกรรมนั้นผู้แปลจะต้องมีประสบการณ์ในการแปล มีทั้งตัวอย่างการแปลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตลอดจนตัวอย่างการตรวจแก้งานแปลของผู้เขียนเอง
ซึ่งทุกส่วนล้วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแปลวรรณกรรม
ดังนั้นผู้แปลต้องศึกษาหลักการแปลวรรณกรรมให้ถ่องแท้เข้าใจชัดเจน
จึงสามารถแปลงานอกมาได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด
หลักการแปลนวนิยาย
นวนิยายแปลเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกประเทศและทุกกาลสมัย
ผู้แปลมีความสำคัญเกือบจะเท่าผู้แต่ง ในบางครั้งมีความสำคัญยิ่งกว่าผู้แต่ง เพราะผู้แปลจะต้องสื่อความหมายของงานแปลต้นฉบับออกมาให้ถูกต้องตามต้นฉบับ
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำ สำนวน หรือคำศัพท์เดียวกัน
แต่สามารถค้นหาถ้อยคำสำนวนอื่นที่สละสลวยมาใช้ได้
แต่ความหมายและคุณค่าทางวรรณกรรมยังคงอยู่และสอดคล้องกับต้นฉบับได้เป็นอย่างดี
1. การแปลชื่อเรื่องวรรณกรรม ชื่อของหนังสือหรือภาพยนตร์มีความสำคัญเป็นอันดับแรกซึ่งการแปลชื่อเรื่องมีความสำคัญเทียบเท่าใบหน้าของคนเราซึ่งจะต้องความพิถีพิถันในการแปล
โดยทั่วไปมีหลักการอยู่ 4 แบบดังนี้
1.1 ไม่แปล ใช้วิธีการถอดเสียงหรือถ่ายทอดตามตัวอักษร
1.2 แปลตามตัว
ถ้าชื่อมีความสมบูรณ์ครบถ้วนก็จะใช้วิธีการแปลตรงตัวโดนรักษาคำและความหมาย
ไว้ด้วยภาษาที่ดีและกะทัดรัด
1.3 แปลบางส่วนแปลงบางส่วน ใช้เมื่อชื่อในต้นฉบับห้วนเกินไปไม่ดึงดูดและสื่อความหมายไม่เพียงพอ
1.4 ตั้งชื่อใหม่โดยการตีความชื่อเรื่องและเนื้อเรื่อง จะต้องวิเคราะห์เนื้อหาและเนื้อเรื่องจนจับประเด็นสำคัญและลักษณะเด่นของเรื่อง
2.การแปลบทสนทนา
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากในการแปลวรรณกรรมเพราะมีภาษาหลายระดับที่เต็มไปด้วยคำสแลง คำสบถ
คำย่อ คำตัด หากผู้แปลไม่คุ้นก็จะทำให้แปลได้ผิดพลาด
3.การแปลบทบรรยาย
เป็นข้อความที่เขียนเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ซึ่งมักจะใช้ภาษาเขียนที่ขัดเกลาและแตกต่างกันหลายระดับก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นอีกระดับ
ก. ภาษาในสังคม ภาษาในสังคมมีหลายระดับชั้น
และการใช้ภาษามีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะภาษาถิ่นที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการแปลทั้งเรื่องเสียง
การใช้คำ ความหมายของคำ การเรียงคำ
ข. ภาษาวรรณคดี ภาษาระดับนี้ต้องคำนึงถึง
ลีลาของการเขียน ที่เป็นลักษณะเฉพาะของผู้เขียน
ขั้นตอนในการแปลวรรณกรรม
1.อ่านเรื่องราวให้เข้าใจโดยตลอด สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องที่จะแปลได้
ย่อความเนื้อเรื่องได้ จับประเด็นของเรื่อง
ทำแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครสำคัญในเรื่อง
2.วิเคราะห์ถ้อยคำสำนวน ค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก
ค้นหาความกระจ่างของข้อความที่ไม่เข้าใจ ค้นหาความกระจ่างทางวัฒนธรรม
3.ลงมือแปลเป็นภาษาไทยด้วยถ้อยคำสำนวนที่เรียบง่าย อ่านเข้าใจง่ายและชัดเจน
หลักการแปลบทละคร
บทละครคือวรรณกรรมการแสดง
ในที่นี้จะเป็นการแปลละครโศก ละครชวนขัน
ละครโอเปร่าหรืออุปรากรและบทละครสำหรับละครเวทีซึ่งมีวิธีการแปลคล้ายกับการแปลเรื่องสั้น
นวนิยายคือเริ่มด้วยการอ่านต้นฉบับเพื่อทำความเข้าใจให้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบก่อน
หาความหมายและคำแปลแล้วจึงเขียนบทแปลด้วยภาษาที่เหมาะสม
หลักการแปลภาพยนตร์
บทภาพยนตร์มีลักษณะเหมือนบทละคร
คือประกอบด้วยคำสนทนาเป็นส่วนใหญ่แต่ผู้แสดงภาพยนตร์มีคนแสดงมากกว่าแต่ละคนจะใช้คำพูดต่างกันตามอุปนิสัย
ใจคอและพูดจารวดเร็วต่างจากผู้แสดงละครซึ่งจะพูดช้าและเน้นย้ำให้ชัดเจน
วิธีแปลบทภาพยนตร์ มีขั้นตอนดำเนินการเช่นเดียวกับการแปลบทละคร
การ์ตูนซึ่งต้องอ่านทั้งข้อความ ภาพและฉากพร้อมๆกันโดยสัมพันธภาพต่อกัน
ซึ่งจุดประสงค์หลักของบทละครภาพยนตร์แปลมี 2 ประการ คือ
1.นำบทแปลไปพากย์หรืออัดเสียงในฟิล์ม ผู้ฟังจะได้ยินนักแสดงพูดภาษาไทย
2.นำบทแปลไปเขียนคำบรรยายในฟิล์มดั้งเดิม
ผู้ฟังจะได้ยินเสียงเดิมของนักแสดงและได้เห็นคำแปลพร้อมกัน
หลักการแปลนิทาน นิยาย
บันเทิงคดีประเภทนิทาน นิยาย
เรื่องเล่าเป็นสิ่งที่มีมาแต่โบราณสมัยที่ยังไม่ใช้ตัวอักษรในการสื่อสารกัน
เป็นการเล่าแบบปากต่อปากหรือที่เรียกว่า มุขปาฐะ
โดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ศาสนา เพื่อความสนุกสนาม เพลิดเพลิน
ตามหลักวรรณคดีสากล มีชื่อต่างๆเรียกวรรณกรรมประเภทนิทาน นิยาย เรื่องเล่า ดังนี้
- Tale หมายถึงเรื่องเล่าที่ประดิษฐ์คิดแต่งขึ้น
ซึ่งจะเล่าในรูปแบบร้อยแก้วหรือร้อยกรอง
มีเนื้อเรื่องธรรมดาแต่มีวิธีการเล่าที่แปลก
- Myth หมายถึงเรื่องเล่าที่รู้จักกันมาแต่โบราณ
เนื้อเรื่องมักจะกล่าวถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา
อิทธิปาฏิหาริย์ของพระเจ้า เทพเจ้า วีรบุรุษ
- Fable
หมายถึงเรื่องสั้นๆที่มุ่งแสดงให้เห็นสัจธรรม
เรื่องเรื่องจริงบางอย่าง
ตัวละครมักจะเป็นสัตว์หรือคนโดยส่วนใหญ่เป็นการวิจารณ์มนุษย์
-
Fabliau หมายถึง เรื่องเล่าสั้นๆที่แต่งเป็นร้อยกรอง
สามารถนำเพลงมาร้องได้ จะสอดแทรกอารมณ์ขันและยั่วล้อ
- Fairy Tales หมายถึง
นิทานประเภทหนึ่งของ myth ซึ่งเน้นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้า
เทพยา ภูตผีปีศาจ วิญญาณ
- Legend หมายถึง
เรื่องราวชีวิตของนักบุญหรือบุคคลธรรมดาที่บำเพ็ญความดี
มีคุณธรรมน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
ในการแปลนิทาน นิยายนี้ จะต้องมีการอ่านต้นฉบับเพื่อทำความเข้าใจก่อนล่วงหน้า
แล้วใช้จึงดำเนินการเขียนบทแปล โดยจะใช้รูปแบบภาษาระดับกลาง ใช้วิธีเขียนแบบเก่า
โบราณ ไม่เหมือนปัจจุบัน ตอนจบเป็นคำสอนการแปลชื่อของเรื่องนี้
สามารถใช้วิธีการแปลแบบตรงตัวได้
เพื่อให้ผู้อ่านสามารถคาดเดาถึงคำสอนได้ตั้งแต่ชื่อเรื่อง
และทำให้เนื้อเรื่องเกิดความน่าสนใจและอยากอ่านต่อจนจบเรื่อง
หลักการแปลเรื่องเล่า
เรื่องเล่าสั้นๆ แฝงอารมณ์ขันมักจะปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
ผู้อ่านจะต้องเข้าใจปมของอารมณ์ขันและหยิบยกขึ้นมาแปลถ่ายทอดให้ตรงตามต้นฉบับ เรื่องเล่าจะประกอบด้วยตัวละคร
1-2 ตัว ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน ตอนจบมักจะเป็นปมอารมณ์ขันที่เป็นจุดเด่นของเรื่อง
ในการแปลเรื่องเล่า จะมีวิธีการแปลตามขั้นตอน คือเริ่มด้วยการอ่านให้เข้าใจแล้วเขียนบทแปล
โดยการใช้ภาษาระดับกลาง เป็นถ้อยคำสั้น ๆ กะทัดรัด หรืออาจจะมีความกำกวมเพื่อให้เกิดอารมณ์ขัน
หลักการแปลการ์ตูน
การ์ตูนไม่ใช่เรื่องสั้นสำหรับเด็กๆแต่เป็นวรรณกรรมทั้งชายหญิงที่จะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน
ผ่อนคลายเครียดจากการอ่านการ์ตูน นอกจากนี้การ์ตูนยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ความสามารถเชิงสังเกต
วิเคราะห์และเชาว์ไวไหวพริบแก่ผู้อ่าน สามารถเชื่อมโยงการสื่อความหมายด้วยภาพกับภาษาเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้นแลละเกิดการจินตนาการภาพไปพร้อมๆกัน
ซึ่งหลักการสำคัญในการแปลการ์ตูน ก็คือการใช้การใช้คำแปลที่สั้น ชัดเจน
เข้าใจได้หรือสื่อสารได้ สามารถกำจัดคำภายในกรอบคำพูดได้ ภาษาในการสนทนามีหลายระดับขึ้นอยู่กับตัวละครที่สร้างขึ้น
ผู้แปลต้องระมัดระวังในการใช้ภาษาในการแปลเพื่อให้สอดคล้องกับต้นฉบับและเนื้อหาที่น่าสนใจ
หลักการแปลกวีนิพนธ์
กวีนิพนธ์เป็นวรรณกรรมที่แต่งเป็นร้อยกรอง มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัวด้วยการจำกัดจำนวนคำ
จำนวนพยางค์และจำนวนบรรทัด ทั้งเสียงหนัก – เบา
การสัมผัสและจังหวะ จัดทำขึ้นเพื่อเล่าเรื่อง ให้ความรู้ สอนศีลธรรม
และเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน โดยการแปลจะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และเป็นไปตามลักษณะของการแปลกวีนิพนธ์
ซึ่งได้แก่
1. การแปลเป็นร้อยกรอง วิธีนี้นิยมใช้กับวรรณคดีโบราณที่มุ่งเน้นทั้งเนื้อหาสาระและความไพเราะของภาษา
ซึ่งจะต้องนำเสนอเนื้อหาที่ใกล้เคียงเนื้อหาเดิมให้มากที่สุดโดนยึดฉันทลักษณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น
พยายามเล่นคำ เล่นความหมายตามต้นฉบับทุกจังหวะ ทุกบททุกตอน
2.
การแปลเป็นร้อยแก้ว ผู้แปลจะใช้การแปลกวีนิพนธ์เป็นร้อยแก้วต่อเมื่อมีจุดประสงค์เพียงการสื่อสารความคิดและวัฒนธรรมอื่นๆในกวี
ปัญหาการแปลกวีนิพนธ์
ปัญหาหลักที่พบในการแปลกวีนิพนธ์สามารถแบ่งออกได้เป็น
2 ส่วน ซึ่ง 2
ปัญหานี้สามารถพบได้กับงานแปลทุกประเภทอยู่แล้ว แต่จะพบมากในงานด้านกวีนิพนธ์
เนื่องจาก ความซับซ้อนของภาษาที่เป็นปัจจัยหลักในการแปล ปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ในการแปลนี้ก็คือ
ความเข้าใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำเนินการแปลทุกประเภท
ผู้แปลต้องเข้าใจภูมิหลังของกวีมากพอสมควร จึงจะเกิดความเข้าใจที่ถ่องแท้ได้
และอีกปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การเลือกใช้ถ้อยคำสำนวน
ผู้แปลต้องหาคำแปลที่สั้น กะทัดรัดในจำนวนที่จำกัดตามฉันทลักษณ์
และต้องมีเสียงหนักเบา เหมาะกับจังหวะ และสัมผัสลื่นไหล
ซึ่งถือว่ายากมากสำหรับการเลือกใช้ถ้อยคำสำนวนให้เหมาะสม
การแปลวรรณกรรมช่วยให้คนที่อยู่ในแต่ละส่วนของโลกได้รับรู้เรื่องราว
สภาพแวดล้อม ความคิด ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของถิ่นอื่นๆ ซึ่งวรรณกรรมถือเป็นงานแปลทางบันเทิงคดี
ได้แก่ งานแปลนวนิยาย เรื่องสั้น นิทาน นิยาย บทละคร การ์ตูน บทภาพยนตร์ บทเพลง
และกวีนิพนธ์ต่าง ๆ มุ่งหวังให้ผู้อ่านเกิดความเพลิดเพลินและได้รับความรู้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแปลวรรณกรรม
ก็คือ การรักษาความหมายเดิมของต้นฉบับไว้ให้ครบถ้วนถูกต้อง ผู้แปลต้องศึกษาหลักการแปลวรรณกรรมให้ถ่องแท้เข้าใจชัดเจน
จึงสามารถแปลงานอกมาได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น