วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันที่ 8 กันยายน

สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน

          ในสังคมโลกปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็วผ่านระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรีและความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้ รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆได้ง่ายและกว้างขึ้น และมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต ในชีวิตประจำวัน เด็กๆจะต้องฉลาดในการทำสิ่งดีงามให้เกิดขึ้นและเจริญงอกงามขึ้น ความประพฤติและการสื่อ สารทั้งทางกายและทางวาจา ไม่ว่าภาษาใด จึงมีความสำคัญมาก เด็กทุกคนควรระลึกถึงความสำคัญของการสื่อสารทางวาจาอยู่เป็นนิจ เพราะเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องกระทำกันอยู่ทุกวัน และสามารถเผลอไผลได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องการพูด ให้เรารู้เท่าทันเจตนาในการพูด และถือว่าการพูดเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ อันจะนำมาซึ่งความสุขและความสงบทั้งตนเองและคนรอบข้าง เพราะชีวิตคือ การศึกษาการเรียนรู้ที่ทำให้ชีวิตดำเนินไปอย่างถูกต้องดีงาม เป็นชีวิตที่มีการฝึกฝน พัฒนาตนเองในทุกด้าน ทั้งด้านพฤติกรรม จิตใจ และปัญญา โดยการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดีงาม เด็กทุกคนจะต้องศึกษา โดยเฉพาะการใช้ภาษาในการสื่อสาร ใช้ภาษาศึกษา ทำความเข้าใจในเรื่องชีวิตของเรา และปฏิบัติดำเนินชีวิตให้ถูกต้องดีงาม
          ภาษาเพื่อการสื่อสารนั้นมีมากหลายภาษา เเต่ตอนนี้ภาษาที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นภาษากลางของดลก ก็คือ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่มีความสำคัญมากในตอนนี้ ฉะนั้นเราจึงควรจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้เกิดความเข้าใจและชำนาญมากยิ่งขึ้น เพื่อสามารถใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารกับคนทั่วโลกได้ ดังนั้น ฉันจึงเลือกที่ใช้เวลาว่างมาศึกษาเรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ 1.Greeting (การทักทาย) เป็นการทักทายกับคนที่คุ้นเคย คนทั่วไป คนที่รูจักกันมากอน และกับคนที่ยังไม่รู้จักกัน 2.Introducing Oneself (การแนะนำตนเอง) เป็นการแนะนำตนเองกับใคร ที่ไหน เป็นขั้นพื้นฐาน 3.Leave taking (การกล่าวลา)เป็นกลารกล่าวลาเพราะอะไร กล่าวลาใคร ควรพูดอย่างไร 4.Giving and Asking personal information (การให้และขอข้อมูลส่วนตัว)เป็นการให้และขอข้อมูลจากใคร ในแต่ละคนจะคุยกันแบบไหน 5.Thanking (การขอบคุณ) เป็นการขอบคุณเนื่องจากโอกาสใคร ขอบคุณใคร 6.Apologizing (การขอโทษ) เป็นการขอโทษเพราะอะไร ขอโทษใคร 7.Situations (สถานการณ์ต่างๆ)-Time (เวลา) -Direction (ทิศทาง) -Shopping (การซื้อขายสินค้า) -Food and Drinks (อาหารและเครื่องดื่ม) เป็นบทสนทนาขั้นพื้นฐานหากเราอยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ จะพูดอะไรบ้าง 8.Routine (กิจวัตรประจำวัน)เป็นการพูดถึงสิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ในทุก ๆ วัน ว่าเป็นอย่างไร  9.School (โรงเรียน) เป็นการสนทนาภานในโรงเรียน คุยกับใคร เพื่อน ครู หรือใครคนใดคนหนึ่งในนั้น จะพูดอย่างไร และ 10. Nakhon Si Thammarat (จังหวัดนครศรีธรรมราช) -Food (อาหาร) -Popular Attractions (สถานที่น่าสนใจ) - Festivals and Events (เทศกาลและวันสำคัญ) ศึกษาเกี่ยวกับการสนทนาเรื่องอาหาร สถานที่ที่น่าสนใจ และเทศกาลวันสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งในการศึกษาบททนาในรูปแบบต่าง ๆ นี้ เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เป็นหลักการสนทนาขั้นพื้นฐานเท่านั้น สามารถนำความรู้ในส่วนนี้ไปใช้สนทนาในระดับสูงกว่านี้ได้อีกด้วย
          นอกจากการศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเหล่านี้แล้ว ในขณะที่กำลังเรียนรู้เรื่องนี้อยู่นั้น ฉันเปิดเพลงสากลเบา ๆ ฟังด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายและง่วงนอน และทำให้เกิดการพัฒนาทักษะการฟังอีกด้วย ในการฟังเพลงของฉันได้เปิดเพลงรวมของศิลปินวง Maroon 5 ซึ่งเพลงเพราะ ๆ ของวงนี้ ได้แก่ เพลง Maps , Sugar , Animals , My heart is open , Payphone , Daylight , Harder to breathe , It was always you , Just a feeling , Feelings , Love somebody , Lucky strike , One more night , She will be loved , Shut up and dance (WALK THE MOON) , Sunday morning , The way you look tonight , This love , Wont go home without you เพลงเหล่านี้เป็นเพลงฮิตของศิลปินวงนี้ เป็นวงดนตรีแนวป็อปร็อคชื่อดังจากสหรัฐฯ นำโดย อดัม เลอวีน โค้ชสุดเซ็กซีจากเวที The Voice อเมริกา เพลงของ Maroon 5 มีแนวเป็นดนตรีที่เน้นกีต้าร์ มักจะเล่นควบคู่ไปกับเปียโนและเครื่องสังเคราะห์ดนตรี (synthesizer) ดนตรีของ Maroon 5 เปลี่ยนแปลงไปทุกอัลบั้ม เนื้อหาในเพลงทุกเพลงของพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับความรัก ซึ่งมักจะเป็นการสูญเสียความรัก รวมไปถึงเพลงเกี่ยวกับความหลงใหล และบางบทเพลงจะมีน้ำเสียงแบบถากถาง แสดงถึงความขุ่นเคืองในความสัมพันธ์ ทำให้ฉันศึกษาเรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้โดยไม่มีความรู้สึกน่าเบื่อหรือง่วงนอนแต่อย่างใด อีกทั้งจากการฟังเพลงและการอ่านเนื้อหานั้น ฝึกทักษะการฟังและการอ่านของฉันในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย ตามคำที่ว่า ตาดู หูฟัง แยกประสาทสัมผัสการรับรู้ ซึ่งตัวฉันก็สามารถแยกมันได้ สามารถเข้าในเนื้อหาที่อ่าน ฝึกพูดบทสนทนานั้นได้ ฟังเพลงก็ไม่มีผลต่อการอ่าน นอกจากการเรียนรู้ในครั้งนี้ จะฝึกทักษะการอ่าน การฝึกพูดและทักษะการฟังเเล้ว ยังฝึกสมาธิของผู้เรียนรู้ได้อีกด้วย เป็นการทดสอบสมาธิของตนเองว่ามีความแน่วแน่มากแค่ไหน การใช้เวลาว่างเพียงน้อยนิดมาศึกษานอกห้องเรียนแบบนี้มีประโยชน์แก่ตัวฉันและทุกคนที่สนใจเป็นอย่างมาก ฉะนั้นในยุคสมัยที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และตอนนี้ในเมื่อภาษาอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลต่อการใชีชีวิตของเรา เราก็จำเป็นที่ต้องเรียนรู้มัน เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมสมัยนี้ได้อย่างไม่ตกเทรน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น